เตือนภัย Nefilim แรนซัมแวร์ ที่จะลุยเป้าหมายโจมตีเหยื่อองค์กรระดับหมื่นล้าน โดย Trend Micro Incorporated บริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ เปิดเผยรายงานการศึกษาเกี่ยวกับแรนซัมแวร์ในตระกูล Nefilim โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบการโจมตีของแรนซัมแวร์ยุคใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เจาะลึกถึงพัฒนาการในการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่มนี้ว่าหลุดรอดการตรวจจับไปได้อย่างไร อีกทั้งยังอธิบายว่าแพลตฟอร์มในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามอัจฉริยะนั้นจะช่วยหยุดการคุกคามนี้ได้อย่างไร
แนวทางของแรนซัมแวร์ยุคใหม่ในตระกูลนี้ ทำให้ตรวจจับและตอบโต้ได้ยากมากขึ้นสำหรับทีมศูนย์รักษาความปลอดภัยและทีมดูแลความปลอดภัยระบบไอทีที่มีงานล้นมืออยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะกระทบถึงรายได้และชื่อเสียงขององค์กรแล้ว ยังรวมถึงสวัสดิภาพของทีมงานที่ดูแลเรื่องรักษาความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “แรนซัมแวร์ยุคใหม่จะโจมตีแบบพุ่งเป้าเจาะจงมากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบและซ่อนอำพรางได้เก่งขึ้น โดยใช้แนวทางการโจมตีที่สมบรูณ์แบบด้วยเทคนิคขั้นสูงอย่างการโจมตีของกลุ่ม APT (Advance Persistent Threat) ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต ด้วยการขโมยข้อมูลและปิดล็อคการทำงานของระบบสำคัญๆ อย่าง การโจมตีของกลุ่มอย่าง Nefilim ซึ่งพุ่งเป้าไปที่องค์กรระดับโลกที่มีผลกำไรสูง”
จากการศึกษาแรนซัมแวร์ 16 กลุ่มที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 – มกราคม 2564 เช่น Conti, Doppelpaymer, Egregor และ REvil ที่ประเดิมให้เห็นในแง่ของจำนวนเหยื่อที่เปิดเผยว่าโดนโจมตี และกลุ่มของ Clop ที่โจมตีด้วยการขโมยข้อมูลบนออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดถึง 5 เทราไบต์
อย่างไรก็ตาม หากประเมินแบบคร่าวๆ โดยพิจารณาองค์กรธุรกิจที่มีรายรับมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ หรือในราวสามหมื่นล้านบาท พบว่า Nefilim เป็นแรนซัมแวร์ที่สามารถเรียกค่าไถ่ไปได้เป็นจำนวนเงินสูงสุด
ในรายงานเผยให้เห็นว่า การโจมตีของ Nefilim โดยทั่วไปจะมีรูปแบบและขั้นตอนการโจมตีดังต่อไปนี้