เปิดตัว Visual Studio 2022 แล้วเป็นที่เรียบร้อยซึ่งเป็นครั้งแรกกับ Visual Studio รุ่น 64 บิตที่จะมาช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดและสร้างแอปได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถแก้ไขโค้ดและพัฒนาโซลูชันที่ใหญ่และซับซ้อนได้เร็วขึ้น หมดปัญหาหน่วยความจำไม่พอ พร้อมกับอัปเดตไอคอน ธีม และฟอนต์ Cascadia Code ใหม่ อ่านโค้ดได้ง่ายขึ้น มีตรวจหาปัญหาการเข้าถึงของซอฟต์แวร์ด้วย Accessibility Insights อีกด้วย
– เริ่มต้นพัฒนาแอปได้อย่างรวดเร็ว ด้วย Repo ที่พร้อมให้คุณเริ่มใช้งาน Infrastructure-as-code Assets ในการจัดเตรียม Azure Resources + Workflows และ Actions ของ GitHub พร้อมโซลูชัน CI/CD ที่สร้างไว้ล่วงหน้า – รองรับ .NET 6 และ Unified Framework สำหรับ Windows และ Mac – รองรับ .NET Multi-platform App UI (.NET MAUI) สำหรับการพัฒนาแอปข้ามแพลตฟอร์มบน Windows / Android / macOS / iOS – รองรับ ASP.NET และ Blazor สำหรับการเขียนแอปเดสก์ท็อปผ่าน .NET MAUI – รองรับ .NET Hot Reload สำหรับการเปลี่ยนแปลงโค้ด โดยไม่จำเป็นต้องรีสตาร์ท State ของแอป – รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับ C++ ในการจัดการโค้ดเบสขนาดใหญ่และ IntelliSense – รองรับการทำงานร่วมกับ CMake / Linux / WSL สำหรับการแก้ไขโซลูชันข้ามแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น
– ปรับปรุงประสิทธิภาพของ Core Debugger พร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Flame Charts สำหรับระบุ Hot Paths / Dependent Breakpoints สำหรับการดีบักที่แม่นยำยิ่งขึ้น / Integrated Decompilation Experiences – ฟีเจอร์ใหม่ของ Live Share ที่รองรับการแชทในตัว จัดกำหนดเซสชั่นที่เกิดซ้ำด้วยลิงก์เดิม และกำหนดนโยบายภายในองค์กร – ปรับปรุง IntelliCode ในการคาดเดาโค้ดและเวิร์กโฟลวได้ดีขึ้น – รองรับการทำงานร่วมกันแบบ Asynchronous สำหรับ Git และ GitHub ที่จะช่วยให้นักพัฒนาตรวจสอบและ Merge โค้ดได้ดีขึ้นด้วย Logic และ Checkpoints – ปรับปรุงการค้นหาโค้ดในโค้ดเบสหรือ Repo ต่าง ๆ – ปรับปรุง Visual Studio for Mac ให้มีประสบการณ์การพัฒนาที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ติดตามประกาศเกี่ยวกับ Visual Studio 2022 Preview 1 ได้ในเร็วๆนี้